วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Socail Dance

            “ลีลาศ”   หมายถึงการเต้นเพื่อความสนุกสนานและได้พบกับบุคคลอื่นๆ  ในสังคมในงานสังสรรค์  หรืองานราตรีสโมสร  ลีลาศนี้  มีมานับเป็นพันๆ  ปีแล้ว แต่เพิ่งมีหลักฐานแน่ชัดเมื่อประมาณ ปี ค..1400  ซึ่งได้อธิบายถึงการก้าวเดิน และดนตรี
            การเต้นรำแบบบอลรูม (Ballroom Dancing)   เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมช่องว่างระหว่างชาติและเผ่าพันธุ์ต่างๆ  ถึงแม้ว่าชาวตะวันตกจะนิยมกันอย่างมาก  แต่การเต้นรำแบบบอลรูมก็เป็นที่ยอมรับของชนทุกชาติ
            ในสมัยดึกดำบรรพ์  ชาวสปาร์ต้า  จะฝึกกีฬา เช่น ชกมวย,  ยิงธนู,  วิ่ง,  ขี่ม้า ล่าสัตว์ รวมการ   เต้นรำ  ส่วนชาวโรมันมีการเต้นรำเพื่อแสดงความกล้าหาญ  ผู้ที่มีชื่อเสียงในการเต้นตำของโรมันคือ ซีซีโร (Cicero : 106 – 43 B.C.
            การเต้นรำแบบบอลรูม  เริ่มตั้งแต่สมัยพระนางเจ้าอลิซาเบ็ธที่  1  ซึ่งสมัยนั้นครั่งไคล้การเต้นรำที่เรียกว่า  โวลต้า”  (Volta)   ซึ่งมีการจับคู่แบบวอลซ์ในปัจจุบัน  การเต้นแบบโวลต้านั้นฝ่ายชายจะช่วยให้ฝ่ายหญิงกระโดดขึ้นในอากาศด้วย  ซึ่งพระราชินีเอง ทรงพอพระทัยมาก
            เช็คสเปียร์ (Shakespeare : 1564 – 1616)  อยู่ในกรุงลอนดอนหลายปี  ได้กล่าวไว้ในบทละครเรื่องพระเจ้าเฮนรี่ที่  5  ว่า มีการเต้นอีกอย่างเรียกว่า  โคแรนโท หรือ  โคแรนเท”  (Courante
            สมัยศตวรรษที่  17  การเต้นรำมีแบบแผนมากขึ้น  จอห์น  วีเวอร์  และ  จอห์น  เพทฟอร์ด (John Weaver & John Playford)  เป็นนักเขียนชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียง เพลฟอร์ด ได้เขียนเกี่ยวกับการเต้นรำแบบเก่าของอังกฤษ ซึ่งรวบรวมได้ถึง  900  แบบอย่าง
            แซมมวล  ไพปส์ (Samuel Pepys : 1632 – 1704)  ได้เขียนบันทึกประจำวันในสมัยการปกครองของพระเจ้าชาร์ลส์ที่  2  และได้บันทึกไว้เมื่อ  ค..1662 ถึงงานราตรีสโมสร  ซึ่งพระเจ้าชาร์ลส์ที่  2  ทรงพาสุภาพสตรีออกเต้น โคแรนโท”  (Coranto
            การเต้นรำได้แพร่เข้ามาประเทศฝรั่งเศส เปลี่ยนมาเรียกเป็นสำเนียงฝรั่งเศสว่า  คองเทร  ดองเซ่ (Conterdanse)  พระเจ้าหลุยส์ที่  14  ทรงโปรดปรานมากและต่อมาได้แพร่หลายไปยังประเทศอิตาลีและ สเปน
            การเต้นรำแบบบอลรูมในจังหวะวอลซ์ (Waltz)  ได้เริ่มขึ้นประมาณ  ค.. 1800  เป็นจังหวะที่นิยมกันมากในสมัยนั้น
            ในสมัยพระนางเจ้าวิคตอเรีย (The Victorian Era : 1830 – 80)  การไปงานราตรีสโมสร หนุ่มสาวจะไปเป็นคู่ๆ  ต้องต่างคนต่างไป  และฝ่ายชายจะขอลีลาศกับหญิงคนเดิมมากกว่า  4  ครั้ง ไม่ได้  หญิงโสดก็จะต้องมีพี่เลี้ยงไปด้วย ฝ่ายหญิงจะมีบัตรเล็กๆ  สีขาว  จดบันทึกไว้ว่า เพลงใดมีชายขอจองลีลาศไว้บ้าง
            ในศตวรรษที่ 20  นิโกรในอเมริกา  มีบทบาทมากทางด้านดนตรี  และลีลาต่างๆ  ในนิวออร์ลีน มีการเล่นดนตรีแบบพื้นเมืองของอาฟริกา  ตอนแรกเรียกว่าจังหวะ  (Syncopation) มีท่วงทำนองเร้าใจ  และเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแจ๊ส (Jazz Age)  สมัยเริ่มสงครามโลกครั้งที่  1  ใหม่ๆ  ดนตรีจังหวะนี้ก็เข้ามาแพร่หลายในอังกฤษ พร้อมๆ  กันนั้นก็มีจังหวะพื้นเมืองอีกจังหวะหนึ่งมาจากอเมริกาใต้  คือ จังหวะแทงโก (Tango) ซึ่งมีจุดกำเนิดมาจากเพลงพื้นเมืองของพวกคาวบอยในอาร์เยนตินา ยุคนั้นเรียกว่า  แร็กโทม์ (Rag – Time) ซึ่งการเต้นไม่มีกฏเกณฑ์อะไร
            ต่อมาประมาณปี ค..1929  มีครูลีลาศในอังกฤษรวมกันเป็นคณะกรรมการปรับปรุงการลีลาสแบบบอลรูมขึ้นมาเป็นมาตรฐาน  4  จังหวะ  (ถ้ารวมควิกวอลซ์ด้วยจะเป็น  5  จังหวะ)  ถือว่าเป็นแบบฉบับของชาวอังกฤษ คือ วอลซ์ (Waltz)  ควิกสเต็ป (Quickstep)  แทงโก (Tango)  และ ฟอกซ์ทรอต  (Fox-trot) 
            เนื่องจากอิทธิพลของยุคแจ๊ส (Jazz Age) ก็ได้เกิดการลีลาศแบบลาตินอเมริกา ซึ่งจัดไว้เป็นมาตรฐาน  4  จังหวะ (ถ้ารวมพาโซโดเบิ้ล  ก็จะเป็น  จังหวะ)  คือ  รัมบ้า  (Rumba)   ชา   ชา  ช่า   (Cha – Cha – Cha)  แซมบ้า (Samba) และไจว์ฟ (Jive)   โดยคัดเลือกจากการลีลาศประจำชาติต่างๆ เช่น     แซมบ้าจากบราซิล รัมบ้าจากคิวบา พาโซโดเบิ้ลจากสเปน  และไจว์ฟจากอเมริกา
 
            แบ่งออกเป็น  ประเภท
            1.ประเภทบอลรูม (Ballroom) มีลักษณะการเต้นเต็มไปด้วยความอ่อนหวานลำตัวตั้งตรง        ผึ่งผาย  ไม่โยกหรือส่ายสะโพกมาก  ประกอบไปด้วย   จังหวะ คือ
§       วอลทช์  (Waltz)
§       แทงโก้ (Tango)
§       สโลว์ฟอกซ์ทรอท (Slow Fox Trot)
§       ควิกสเตป (Quick Step)
§       ควิกวอลทซ์ (Quick Waltz)
            2. ประเภทลาตินอเมริกัน (Latin  American) มีลักษณะการเต้นที่มีการเคลื่อนไหว    ลำตัวมาก โดยมากจะใช้สะโพก เอว เข่า และข้อเท้าเป็นสำคัญ ประกอบด้วย จังหวะ คือ
§       ช่า ช่า ช่า Cha Cha Cha )
§       คิวบันรุมบ้า (Cuban Rumba)
§       แซมบ้า (Samba)
§       ไจฟว์ (Jive)
§       พาโชโดเปล
            3. ประเภทเบ็ดเตล็ดต่างๆ   ลักษณะการเต้นเป็นจังหวะที่ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป เป็นที่นิยมเต้นกันในประเทศไทยมาก ประกอบไปด้วย
§       กัวราช่า Guaracha )
§       รุมบ้า (American Rumba)
§       บีกิน (Beguine)
§       ตะลุง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น