วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557
ประเทศคอซอวอ
ประเทศคอซอวอ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
สาธารณรัฐคอซอวอ
Republika e Kosovës (แอลเบเนีย)
Република Косово (เซอร์เบีย) | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|
เพลงชาติ: ยุโรป (Europe) | ||||||
ตำแหน่งของคอซอวอในทวีปยุโรป
| ||||||
เมืองหลวง (และเมืองใหญ่สุด) | พริชตีนา 42°40′N 21°10′E / 42.667°N 21.167°E / 42.667; 21.167 | |||||
ภาษาทางการ | ภาษาแอลเบเนียและภาษาเซอร์เบีย | |||||
การปกครอง | สาธารณรัฐ | |||||
- | ประธานาธิบดี | อาทีเฟเท ยาห์ยากา | ||||
- | นายกรัฐมนตรี | ฮาชิม ทาชี | ||||
ประกาศเอกราช1 | จาก เซอร์เบีย | |||||
- | ประกาศ | 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 | ||||
พื้นที่ | ||||||
- | รวม | 10,887 ตร.กม. (166) 4,203 ตร.ไมล์ | ||||
- | แหล่งน้ำ (%) | ไม่มี | ||||
ประชากร | ||||||
- | 2007 (ประเมิน) | 1.9 ล้าน (141) | ||||
- | ความหนาแน่น | 220 คน/ตร.กม. (55) 569.8 คน/ตร.ไมล์ | ||||
สกุลเงิน | ยูโร2 (€) (EUR ) | |||||
เขตเวลา | CET (UTC+1) | |||||
- | (DST) | CEST (UTC+2) | ||||
1การประกาศเอกราชได้รับการรับรองในระดับนานาชาติเพียงบางส่วน 2ดีนาร์เซอร์เบียใช้กันในเขตอาศัยของชาวเซิร์บและเขตนอร์ทคอซอวอ |
เมืองหลวงของคอซอวอคือพริชตีนา (Priština) จำนวนประชากรทั้งจังหวัดประมาณ 2 ล้าน 1 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นชาติพันธุ์แอลเบเนีย (ร้อยละ 92) ชาวเซิร์บ (ร้อยละ 5.3) และมีชาวตุรกี ชาวบอสเนีย กลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ อีกเล็กน้อย (รวมกันร้อยละ 2.7)
คอซอวออยู่ภายใต้การบริหารของสหประชาชาติมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ในขณะที่เอกราชของเซอร์เบียนั้นเป็นที่ยอมรับในประชาคมโลก โดยแท้จริงแล้ว การปกครองของเซอร์เบียมิได้ปรากฏในจังหวัดนี้เลย องค์กรที่ปกครองคอซอวออยู่คือคณะทำงานสหประชาชาติในคอซอวอ (United Nations Mission in Kosovo: UNMIK) และสถาบันการปกครองตนเองชั่วคราวของท้องถิ่น (Provisional Institutions of Self-Government) โดยมีกองกำลังคอซอวอ (Kosovo Force: KFOR) ภายใต้การนำขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) เป็นผู้รักษาความมั่นคง
จังหวัดคอซอวอเป็นประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองและดินแดนมานานระหว่างชาวเซอร์เบีย (ก่อนหน้านี้คือชาวยูโกสลาฟ) กับชาวแอลเบเนียซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของจังหวัด การเจรจาในระดับนานาชาติเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2549 เพื่อตัดสินสถานะสุดท้าย จากรายงานของสื่อแขนงต่าง ๆ คาดกันว่า การเจรจาจะนำมาซึ่งเอกราชของดินแดนแห่งนี้ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง[1][2][3][4] ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 รัฐสภาของคอซอวอประกาศเอกราชของประเทศแต่เพียงฝ่ายเดียว
ประเทศเบลีซ
ประเทศเบลีซ
เบลีซ
Belize (อังกฤษ)
| ||
---|---|---|
คำขวัญ: ละติน: Sub Umbra Floreo ("เราเจริญขึ้นภายใต้ร่มเงา") | ||
เพลงชาติ: แลนด์ออฟเดอะฟรี "Land of the Free" เพลงสรรเสริญพระบารมี : ก็อดเซฟเดอะควีน1 | ||
เมืองหลวง | เบลโมแพน 17°15′N 88°46′W / 17.250°N 88.767°W / 17.250; -88.767 | |
เมืองใหญ่สุด | เบลีซซิตี | |
ภาษาทางการ | ภาษาอังกฤษ | |
การปกครอง | ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ | |
- | ประมุข | สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร |
- | ผู้สำเร็จราชการ | เซอร์คอลวิลล์ ยัง |
- | นายกรัฐมนตรี | ดีน แบร์โรว์ |
เอกราช | ||
- | จาก สหราชอาณาจักร | 21 กันยายน พ.ศ. 2524 |
พื้นที่ | ||
- | รวม | 22,966 ตร.กม. (151) 8,879 ตร.ไมล์ |
- | แหล่งน้ำ (%) | 0.7 |
ประชากร | ||
- | ก.ค. 2549 (ประเมิน) | 287,730 (1792) |
- | ความหนาแน่น | 12.5 คน/ตร.กม. (2032) 32.4 คน/ตร.ไมล์ |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2547 (ประมาณ) | |
- | รวม | 1.778 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (185) |
- | ต่อหัว | 7,832 ดอลลาร์สหรัฐ* (77) |
HDI (2546) | 0.753 (กลาง) (91) | |
สกุลเงิน | ดอลลาร์เบลีซ (BZD ) | |
เขตเวลา | (UTC-6) | |
โดเมนบนสุด | .bz | |
รหัสโทรศัพท์ | 501 | |
1.God Save The Queen เป็นเพลงชาติอย่างเป็นทางการ แต่โดยทั่วไปแล้วจะใช้ในพระราชพิธีเท่านั้น2ข้อมูลปี พ.ศ. 2548 |
ชื่อประเทศมีต้นกำเนิดมาจากชื่อแม่น้ำเบลีซ ซึ่งเมืองเบลีซซิตี (เมืองหลวงเก่า) ก็ได้ชื่อมาจากแม่น้ำนี้ด้วยเช่นกัน ในภาษาสเปนมักจะเรียกว่า Belice
เบลีซเป็นสมาชิกของประชาคมแคริบเบียน (CARICOM) และ the Sistema de Integracion Centro Americana (SICA) และจัดว่าตนเองอยู่ทั้งในกลุ่มประเทศแคริบเบียนและอเมริกากลาง
ชื่ออาหารและขนมของฝรั่งเศส
อาหารขึ้นชื่อของฝรั่งเศส
ครัวซอง ( croissant) คือขนมอบชนิดหนึ่งที่กรอบ ชุ่มเนย และโดยทั่วไปจะมีลักษณะโค้งอันเป็นที่มาของชื่อ "croissant" ซึ่งในภาษาฝรั่งเศสหมายถึง "จันทร์เสี้ยว" บางทีก็ถูกเรียกว่า crescent roll (โรลจันทร์เสี้ยว)
การทำครัวซองค์จะต้องใช้แป้งพายชั้น (puff pastry - พัฟ เพสทรี่) ที่ผสมยีสต์ นำมารีดให้เป็นแผ่น วางชั้นของเนยลงไป พับและรีดให้เป็นแผ่นซ้ำไปมา ตัดเป็นแผ่นสามเหลี่ยม นำไปม้วนจากด้านกว้างไปด้านแหลม บิดปลายให้โค้งเข้าหากัน อบโดยใช้ไฟแรงให้เนยที่แทรกอยู่เป็นชั้นดันแป้งให้ฟูก่อน จึงค่อยลดไฟลงไม่ให้ไหม้
ครัวซอง |
เมดิเตอเรเนียนคีช
คีช ( quiche) เป็นอาหารจานอบชนิดหนึ่งโดยมีส่วนประกอบหลักคือ ไข่ นม หรือ ครีม ถึงแม้ว่าคีชจะมีลักษณะคล้ายพายแต่คีชถูกจัดเป็นอาหารคาว โดยในคีชอาจมีส่วนประกอบอื่นเช่น เนื้อสัตว์ ผัก เนยแข็ง ได้
ถึงแม้ว่าคีชจะมีส่วนประกอบหลายอย่างคล้ายอาหารประเภทพาสตา แต่ไม่ถูกจัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของพาสตา
เมดิเตอเรเนียคีซ |
ขนมปังฝรั่งเศส
บาเกต ( baguette) หรือ ขนมปังฝรั่งเศส เป็นขนมปังมีลักษณะรูปทรงเป็นแท่งยาวขนาดใหญ่ เปลือกนอกแข็งกรอบ เนื้อในนุ่มเหนียว และเป็นโพรงอากาศ มักนำมาหั่นเฉียงเป็นแผ่นหนา เพื่อรับประทานกับซุป ปาดเนยสด หรือประกอบทำเป็นแซนด์วิช
ปาเกต |
ปาเตหลายหลายชนิดคู่กับแตร์รีน
ปาเต ( pâté) เป็นอาหารยุโรปประเภทหนึ่ง ในภาษาฝรั่งเศสหมายถึงเนื้อบดผสมไขมัน ปาเตโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นซอสสำหรับทา ทำจากเนื้อบดละเอียดหรือส่วนผสมของเนื้อและตับบดหยาบ ๆ และมักผสมไขมัน ผัก สมุนไพร เครื่องเทศ หรือไวน์ เป็นต้น
ในประเทศฝรั่งเศสและประเทศเบลเยียม ปาเตอาจใช้เป็นไส้พายหรือขนมปังแถว เรียก "ปาเตอ็องกรูต" (ฝรั่งเศส: pâté en croûte) หรือใช้อบด้วยแตร์รีนหรือแม่พิมพ์แบบอื่น เรียก "ปาเตอ็องแตร์รีน" (ฝรั่งเศส: pâté en terrine) ปาเตประเภทที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ "ปาเตเดอฟัวกราส์" (ฝรั่งเศส: pâté de foie gras) ทำจากตับของห่านที่ขุนจนอ้วน คำว่า "ฟัวกราส์อองตีเยร์" (ฝรั่งเศส: foie gras entier) หมายถึง ตับห่านธรรมดาที่ได้รับการปรุงสุกและหั่นเป็นแผ่น ไม่ใช่ปาเต
ส่วนในประเทศฮอลแลนด์ ประเทศเยอรมนี ประเทศฟินแลนด์ ประเทศฮังการี ประเทศสวีเดน และประเทศออสเตรีย ปาเตที่ทำจากตับบางชนิดจะมีลักษณะอ่อนยวบ โดยมากเป็นไส้กรอกที่ใช้ทาได้ ภาษาดัตช์เรียก "leverworst" ภาษาเยอรมันเรียก "leberwurst"
ฟัวกรา เสิร์ฟแบบปิกนิกพร้อมขนมปัง
ฟัวกรา ( Foie gras ) แปลเทียบเคียงว่า fat liver คือตับห่านหรือเป็ดที่ถูกเลี้ยงให้อ้วนเกิน ฟัวกราได้ชื่อว่าเป็นอาหารฝรั่งเศสที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับทรัฟเฟิล มีลักษณะนุ่มมันและมีรสชาติที่แตกต่างจากตับของเป็ดหรือห่านธรรมดา
ใน พ.ศ. 2548 ทั่วโลกมีการผลิตฟัวกราประมาณ 23,500 ตัน ในจำนวนนี้ ประเทศฝรั่งเศสเป็นผู้ผลิตมากที่สุดคือ 18,450 ตัน หรือร้อยละ 75 ของทั้งหมด โดยร้อยละ 96 ของฟัวกราจากฝรั่งเศสมาจากตับเป็ด และร้อยละ 4 มาจากตับห่าน ประเทศฝรั่งเศสบริโภคฟัวกราใน พ.ศ. 2548 เป็นจำนวน 19,000 ตัน
ประเทศฮังการีผลิตฟัวกรามากเป็นอันดับสอง และส่งออกมากเป็นอันดับหนึ่ง คือ 1,920 ตันใน พ.ศ. 2548 โดยเกือบทั้งหมดส่งออกไปที่ฝรั่งเศส
ฟัวกรา |
ชามที่มีราทาทุยและขนมปังเคียงข้าง
ราทาทุย ( Ratatouille ) เป็นอาหารพื้นเมืองของฝรั่งเศส ในเขต Provençal โดยมีลักษณะเป็นสตูว์ผัก มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Nice ทานตอนใต้ของฝรั่งเศส อาหารชนิดนี้มีชื่อเต็มว่า ratatouille niçoise
ราทาทุย |
รูปแบบของอาหาร
คำว่า ratatouille มาจากภาษาอ็อกซิตันว่า "ratatolha" ราทาทุยปัจจุบันพบเห็นได้ที่ Occitan Provença และ Niça โดยมักจะทำในหน้าร้อนโดยใช้ผักในฤดูร้อน Ratatolha de Niça สูตรดั้งเดิมนั้นจะใช้เพียงแค่ ซุชีนี่, มะเขือเทศ, พริกหยวกแดงและเขียว, หัวหอม, และกระเทียม ราทาทุยในปัจจุบันจะมีการใส่มะเขือลงไปในส่วนผสมด้วย
ปกติราทาทุยจะเสิร์ฟเป็นอาหารข้างเคียงกับอาหารหลัก หรือบางครั้งก็เสิร์ฟเป็นอาหารหลักบนโต๊ะอาหาร
อาหารฝรั่งเศส
อาหารสังคมสำหรับทุกคน ได้รับการยืนยันยูเนสโกแล้ว
อาหารฝรั่งเศสได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นสิ่งที่พิเศษ จากผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารทั่วโลก ยิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้คณะกรรมการยูเนสโก (งค์การสหประชาชาติศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม)ได้โหวตให้อาหารการกินของฝรั่งเศส(กาสโทรโนมิก มีล) เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ในบรรดา 47 วัฒนธรรม นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ด้านอาหารได้รับการพิจารณาให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2003 เป็นคู่ขนานกับมรดกโลก
ขณะที่ได้รับข่าวดีใหม่นี้ ซึ่งเป็นเกียรติแก่ประเทศฝรั่งเศส เราเกรงว่าจะสร้างภาพลักษณ์ให้อาหารฝรั่งเศส มีความ พิเศษ หรู เหมาะสำหรับคนเฉพาะกลุ่ม มากกว่าที่จะเป็นสำหรับคนทั่วไป เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด ต่อไปนี้เราจึงนำเสนอในด้านที่ถูกต้อง เหตุใดคณะกรรมการยูเนสโกจึงได้ลงมติเช่นนั้น
ว่าด้วย เรื่องอาหารการกิน(กาสโทรโนมิก มีล) ยูเนสโก ได้หมายถึง จารีตประเพณีที่ได้ออกแบบมาของสังคม เพื่อ การเฉลิมฉลองช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของบุคคลและกลุ่ม ผ่านศิลปะการกินและการดื่ม ที่ดี ใช้เวลาร่วมกันและเสริมสร้างมิตรภาพ ระหว่างคอร์สอาหารที่หลากหลาย มื้อแห่งความสุข ตั้งแต่เสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนอาหาร, อาหารเรียกน้ำย่อย, อาหารจานหลัก, สลัด, ชีส, ขนมและไวน์ นั่นคือพิธีการรับประทานทั้งหมด ,ความลงตัวของอาหาร และไวน์ ลำดับการรับประทานอาหาร การจัดโต๊ะ การพูดคุย ซึ่งอาหารการกินแบบฝรั่งเศสนี้ เป็นสิ่งที่ยูเนสโก เล็งเห็นการอนุรักษ์เป็นมรดกทางวัฒนธรรม
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น สำหรับเรา ที่อาศัย ในจังหวัดเชียงใหม่ มี ร้านอาหารฝรั่งเศส ที่ตกแต่งหรูหรา นี่คงเป็นสาเหตุ ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าอาหารฝรั่งเศสเข้าถึงยาก ซึ่งทั้งคุณมาร์โค จากร้าน Chez Marco และคุณ ชอง จาก La Terrasse แสดงแง่คิดอีกมุมมอง ดูจากเมนูของพวกเขา สนนว่ามีราคาที่ความเหมาะสมและบ่อยๆบางรายการยังถูกกว่าอาหารอิตาเลี่ยน อาหารฝรั่งเศสใครๆก็รับประทานได้ และเงิน ไม่ใช่ปัญหา
ในความเป็นจริง ร้านอาหารฝรั่งเศสก็ มีอาหารอื่นๆไว้บริการเหมือนร้านทั่วๆไปเช่น สเต็ก เมนูทะเล สลัด ฯลฯ อะไร คืออาหารฝรั่งเศสแท้ บริบทของการรับประทานอาหารอย่างที่องค์กรยูเนสโกชี้ให้เห็นก็คือ การผสมผสานของอาหารแต่ละจาน และเครื่องดื่ม คือจุดสำคัญ
ดังนั้นอาหารฝรั่งเศสที่สมบูรณ์แบบประกอบด้วย?คุณ ชอง จาก La Terrasse ได้ทำให้เราเข้าใจมากขึ้นถึงนิสัยการรับประทานอาหารแบบฝรั่งเศส
โดยทั่วไปจะเริ่มด้วย การดื่มเแอลกอฮอล์ก่อนอาหาร ตามด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยเช่นซุปผักและเนื้อสัตว์บด ปาเต (มีส่วนผสมของเนื้อ และไขมัน) หลังจากนั้นมาถึงอาหารจานหลักได้แก่ ปลาหรือเนื้อ หรือทั้งสองอย่างเสิร์ฟพร้อมสลัดผักเขียว อาหารจานหลักมีความหลากหลายและซับซ้อน ปรุงแต่ง โดยเชฟ สองเมนูที่คนนิยม คือ เบอฟฺ บัวร์กิงอน และ ค็อก โอ เวอน สตูว์เนื้อ และไก่ต้มในไวน์แดงส่วนเครื่องเคียงที่ต้องมีคือ มันฝรั่งบด หรือผัด และ ต้องเสิร์ฟขนมปังตลอด หลังจากอาหารจานหลักสิ่งที่ขาดไม่ได้คือชีส มีรายงานมาว่าฝรั่งเศสมีชีสมากกว่า 1000 ชนิด แต่ที่ได้รับความนิยม คือ คะมอมแบร์ อาจตามด้วยขนมหวาน ท้ายสุดนี้ ที่จะต้องกล่าวถึง เครืองดื่มที่คนฝรั่งเศสดื่มเวลารับประทานอาหาร คือน้ำเปล่า และไวน์เท่านั้น ไวน์ช่วยให้รับรู้รสชาดอาหารได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีหลากหลายชนิด แต่เราสามารถเลือกดื่ม เฮาส์ไวน์ถือว่ารสชาดดีทีเดียว
เรื่อง ของอาหารฝรั่งเศสทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ เราเกือบลืมสาธยายลักษณะอันโดดเด่นของการรับประทานอาหารฝรั่งเศส คงเป็นในเรื่องความโรแมนติก ซึ่งคุณอาจต้องเก็บไว้ในใจเพื่อเป็นทางเลือก ในการมองหาสถานที่รับประทานอาหารในวันวาเลนไทน์ที่ใกล้จะถึง
(click image to enlarge)
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน ณ เมืองต่างๆ ในทวีปเอเชีย (℃)
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน ณ เมืองต่างๆ ในประเทศจีน (℃)
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน ณ เมืองต่างๆในทวีปยุโรป (℃)
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน ณ เมืองต่างๆ ในทวีปอเมริกา แคนาดา (℃)
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน ณ เมืองต่างๆ ในออสเตรเรีย - นิวซีแลนด์ (℃)
เมืองต่างๆ ในเอเชีย | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. |
สิงคโปร์ | 26 | 27 | 27 | 28 | 28 | 28 | 27 | 27 | 27 | 27 | 27 | 26 |
จาการ์ต้า | 26 | 27 | 27 | 27 | 28 | 27 | 27 | 27 | 27 | 27 | 27 | 26 |
กรุงเทพ | 26 | 27 | 29 | 31 | 30 | 29 | 28 | 28 | 28 | 28 | 26 | 26 |
มะนิลา | 25 | 26 | 27 | 29 | 29 | 28 | 28 | 22 | 21 | 18 | 17 | 14 |
โตเกียว | 4 | 5 | 8 | 13 | 18 | 22 | 26 | 27 | 23 | 17 | 12 | 6 |
โอซาก้า | 6 | 5 | 9 | 15 | 19 | 23 | 27 | 28 | 24 | 18 | 13 | 8 |
ซัปโบโร | -5 | -5 | 2 | 6 | 13 | 16 | 20 | 21 | 15 | 12 | 10 | 0 |
โซล | -2 | -2 | 4 | 12 | 19 | 22 | 26 | 26 | 21 | 15 | 8 | 2 |
นิวเดลี | 14 | 17 | 23 | 29 | 34 | 35 | 31 | 30 | 29 | 26 | 20 | 16 |
กัวลาลัมเปอร์ | 27 | 28 | 29 | 29 | 27 | 27 | 27 | 28 | 28 | 27 | 27 | 26 |
คัลกัสต้า | 20 | 21 | 21 | 29 | 30 | 31 | 31 | 31 | 30 | 26 | 24 | 20 |
มัลดีฟส์ | 25 | 26 | 26 | 27 | 27 | 26 | 26 | 26 | 25 | 24 | 24 | 24 |
กาฐมันฑุ | 10 | 12 | 16 | 19 | 22 | 24 | 24 | 24 | 24 | 20 | 15 | 11 |
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน ณ เมืองต่างๆ ในประเทศจีน (℃)
เมืองต่างๆ ในประเทศจีน | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. |
ปักกิ่ง | -5 | 2 | 5 | 14 | 20 | 25 | 26 | 25 | 20 | 13 | 4 | -3 |
ไทเป | 15 | 15 | 18 | 21 | 25 | 26 | 28 | 28 | 27 | 23 | 21 | 17 |
ฮ่องกง | 15 | 16 | 18 | 22 | 26 | 28 | 29 | 28 | 27 | 25 | 21 | 17 |
นานกิง | 2 | 3 | 4 | 15 | 21 | 25 | 27 | 27 | 22 | 16 | 10 | 5 |
เซี่ยงไฮ้ | 4 | 5 | 9 | 15 | 21 | 24 | 28 | 28 | 23 | 19 | 12 | 8 |
กวางเจา | 13 | 14 | 17 | 22 | 27 | 27 | 30 | 30 | 28 | 24 | 20 | 16 |
ฉงชิ่ง | 8 | 8 | 13 | 17 | 22 | 25 | 27 | 27 | 22 | 17 | 12 | 9 |
หังโจว | 4 | 5 | 10 | 15 | 21 | 25 | 29 | 28 | 22 | 17 | 12 | 9 |
คุนหมิง | 10 | 11 | 14 | 18 | 20 | 20 | 21 | 20 | 20 | 16 | 13 | 10 |
เฉิงตู | 6 | 7 | 11 | 16 | 22 | 24 | 25 | 24 | 20 | 16 | 10 | 7 |
กุ้ยหลิน | 9 | 9 | 13 | 19 | 24 | 26 | 28 | 28 | 26 | 20 | 19 | 12 |
จีหนาน | -1 | 9 | 9 | 17 | 23 | 27 | 28 | 26 | 22 | 14 | 7 | 1 |
ฮาร์บิ้น | -20 | -14 | 2 | 6 | 15 | 21 | 22 | 20 | 14 | 4 | -6 | -12 |
ซีอาน | 1 | 2 | 8 | 15 | 21 | 25 | 27 | 25 | 21 | 13 | 6 | 2 |
ลาซา (ทิเบต) | -2 | 1 | 4 | 9 | 12 | 15 | 15 | 14 | 13 | 8 | 2 | -2 |
หนานหนิง | 13 | 14 | 18 | 22 | 26 | 28 | 28 | 28 | 27 | 23 | 19 | 15 |
กุ้ยหยาง | 5 | 7 | 12 | 16 | 20 | 22 | 23 | 23 | 21 | 16 | 11 | 7 |
ไห่โข่ว | 17 | 18 | 22 | 25 | 27 | 28 | 28 | 28 | 27 | 25 | 22 | 19 |
หลันโจว | -7 | -2 | 5 | 12 | 17 | 20 | 22 | 20 | 16 | 10 | 2 | -6 |
ฉังซา | 5 | 6 | 11 | 17 | 22 | 26 | 29 | 29 | 24 | 19 | 13 | 7 |
หวู่ฮั่น | 3 | 5 | 10 | 16 | 21 | 26 | 29 | 28 | 23 | 18 | 11 | 5 |
อูรูมุฉี | -15 | -13 | 0 | 11 | 19 | 24 | 26 | 24 | 17 | 9 | -2 | -12 |
เจิ้งโจว | 0 | 2 | 8 | 15 | 21 | 26 | 27 | 26 | 21 | 15 | 8 | 2 |
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน ณ เมืองต่างๆในทวีปยุโรป (℃)
เมืองต่างๆ ในยุโรป | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. |
อัมสเตอร์ดัม | 3 | 3 | 5 | 9 | 14 | 15 | 17 | 18 | 16 | 11 | 7 | 4 |
บูดาเปสต์ | 0 | 1 | 5 | 9 | 14 | 15 | 19 | 20 | 18 | 9 | 5 | 1 |
เบอร์ลิน | -1 | 0 | 4 | 8 | 14 | 15 | 18 | 19 | 16 | 10 | 5 | 0 |
มิวนิค | 1 | 3 | 9 | 14 | 18 | 21 | 23 | 23 | 20 | 13 | 7 | 2 |
ลอนดอน | 5 | 5 | 7 | 9 | 12 | 16 | 18 | 17 | 15 | 11 | 7 | 5 |
แฟรงก์เฟิร์ต | 1 | 3 | 6 | 10 | 14 | 18 | 16 | 18 | 19 | 9 | 5 | 2 |
ไคโร | 14 | 14 | 16 | 20 | 26 | 27 | 27 | 28 | 19 | 17 | 16 | 15 |
ปารีส | 3 | 4 | 5 | 11 | 13 | 17 | 19 | 18 | 16 | 11 | 6 | 4 |
เวียนนา | 0 | 1 | 4 | 10 | 15 | 18 | 20 | 20 | 18 | 10 | 5 | 2 |
โรม | 8 | 9 | 11 | 14 | 18 | 22 | 25 | 25 | 22 | 18 | 13 | 9 |
สตอกโฮล์ม | -5 | -6 | 1 | 6 | 10 | 15 | 18 | 18 | 10 | 7 | 3 | 0 |
บรัสเซล | 1 | 4 | 7 | 11 | 13 | 18 | 19 | 18 | 17 | 12 | 7 | 2 |
ลักเซมเบิร์ก | 0 | 1 | 7 | 11 | 13 | 17 | 19 | 18 | 15 | 9 | 4 | 2 |
มาดริค | 5 | 7 | 11 | 14 | 17 | 21 | 24 | 19 | 20 | 13 | 9 | 6 |
บาเซโรน่า | 13 | 14 | 16 | 18 | 22 | 25 | 17 | 28 | 26 | 22 | 17 | 14 |
ลิสบอน | 11 | 12 | 15 | 17 | 19 | 23 | 25 | 24 | 23 | 19 | 14 | 11 |
เจนีวา | 1 | 1 | 6 | 10 | 13 | 17 | 18 | 19 | 15 | 10 | 4 | 1 |
ลูเซิร์น | 0 | 3 | 7 | 12 | 16 | 20 | 22 | 21 | 17 | 11 | 6 | 2 |
ฟลอร์เรน | 9 | 12 | 15 | 20 | 24 | 29 | 32 | 31 | 27 | 21 | 14 | 10 |
เวนิส | 4 | 4 | 8 | 13 | 17 | 21 | 24 | 23 | 20 | 15 | 11 | 5 |
เอเธนส์ | 9 | 10 | 12 | 16 | 21 | 26 | 29 | 28 | 24 | 20 | 15 | 11 |
เยรูซาเลม | 14 | 14 | 17 | 17 | 21 | 21 | 26 | 26 | 26 | 26 | 18 | 18 |
โคเปญเฮเก้น | -1 | 0 | 3 | 8 | 13 | 17 | 18 | 18 | 14 | 9 | 4 | 2 |
สตูดกาด | -4 | -4 | -1 | 6 | 11 | 16 | 19 | 17 | 12 | 7 | 2 | -1 |
ออสโล | -6 | -4 | 1 | 6 | 12 | 16 | 18 | 17 | 11 | 7 | 2 | 3 |
เฮลซินกิ | -9 | -8 | -4 | 3 | 10 | 15 | 18 | 16 | 11 | 4 | -1 | -6 |
มอสโคว์ | -14 | -12 | -6 | 6 | 14 | 15 | 18 | 17 | 12 | 6 | -2 | -10 |
วอร์ซอ | -5 | -4 | 3 | 9 | 16 | 18 | 21 | 19 | 16 | 10 | 4 | 2 |
ปราค | -2 | 1 | 4 | 11 | 15 | 19 | 21 | 20 | 16 | 10 | 4 | 0 |
โซเฟีย | -1 | 1 | 7 | 12 | 16 | 19 | 22 | 21 | 17 | 12 | 7 | 1 |
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน ณ เมืองต่างๆ ในทวีปอเมริกา แคนาดา (℃)
เมืองต่างๆ ในอเมริกา | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. |
ฮาวาย | 24 | 24 | 23 | 23 | 25 | 26 | 27 | 27 | 27 | 27 | 24 | 23 |
วอซิงตัน | 3 | 3 | 7 | 14 | 14 | 18 | 20 | 17 | 15 | 12 | 9 | 7 |
นิวยอร์ค | 1 | 1 | 5 | 11 | 17 | 22 | 25 | 24 | 20 | 15 | 9 | 2 |
แอล.เอ | 13 | 14 | 14 | 16 | 17 | 19 | 22 | 22 | 21 | 18 | 17 | 14 |
ซานฟรานซิสโก | 9 | 11 | 12 | 13 | 15 | 16 | 17 | 17 | 18 | 16 | 13 | 10 |
โตรันโต | -6 | -5 | -1 | 7 | 12 | 19 | 21 | 20 | 16 | 10 | 3 | -3 |
แวนคูเวอร์ | 2 | 4 | 6 | 9 | 13 | 15 | 17 | 17 | 14 | 10 | 6 | 4 |
บูโนสไอเรส | 36 | 35 | 32 | 29 | 25 | 20 | 22 | 24 | 26 | 28 | 32 | 35 |
ริโอ เดอ จาเนอโร | 26 | 26 | 26 | 24 | 22 | 21 | 24 | 24 | 25 | 26 | 26 | 27 |
เม็กซิโก | 12 | 14 | 16 | 17 | 17 | 17 | 16 | 16 | 16 | 15 | 13 | 12 |
ลาส เวกัส | 8 | 10 | 16 | 18 | 26 | 32 | 32 | 30 | 28 | 23 | 14 | 9 |
ฮอนโนลูลู | 23 | 22 | 22 | 23 | 23 | 25 | 25 | 26 | 25 | 25 | 22 | 22 |
อุณหภูมิโดยเฉลี่ยในแต่ละเดือน ณ เมืองต่างๆ ในออสเตรเรีย - นิวซีแลนด์ (℃)
เมืองต่างๆในออสเตรเลีย | ม.ค. | ก.พ. | มี.ค. | เม.ย. | พ.ค. | มิ.ย. | ก.ค. | ส.ค. | ก.ย. | ต.ค. | พ.ย. | ธ.ค. |
ไคร้สท์เชิร์ช | 26 | 24 | 22 | 19 | 199 | 15 | 12 | 10 | 14 | 15 | 19 | 23 |
โอ๊คแลนด์ | 23 | 22 | 18 | 15 | 13 | 12 | 10 | 12 | 16 | 18 | 20 | 22 |
ซิดนีย์ | 22 | 22 | 21 | 19 | 15 | 13 | 12 | 13 | 16 | 18 | 20 | 21 |
เมลเบิร์น | 20 | 20 | 19 | 16 | 13 | 11 | 10 | 11 | 13 | 15 | 16 | 18 |
ดาร์วิน | 28 | 28 | 28 | 26 | 25 | 24 | 25 | 26 | 18 | 30 | 30 | 28 |
บริสเบน | 25 | 29 | 24 | 21 | 18 | 16 | 15 | 16 | 19 | 21 | 23 | 25 |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)